ReadyPlanet.com


10 ที่เที่ยวมิวนิก ที่สุดของความงาม Munich EP2


 6. สนามฟุตบอลอัลลีอันทซ์อาเรนา (Allianz Arena)

     แฟนบอลต้องไม่พลาด มาเที่ยวมิวนิกจะไม่เที่ยวสนามบอลในตำนานอย่าง สนามฟุตบอลอัลลีอันทซ์อาเรนา (Allianz Arena) หรือ เดิมทีเรียกว่าสนาม ฟีฟ่า เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม ถือว่ามาเที่ยวมิวนิกเสียเที่ยวมากๆ สนามฟุตบอลแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ 2545 โดยใช้เวลาก่อสร้างร่วมกว่า 3 ปี และมูลค่าการก่อสร้างกว่า 340 ล้านยูโร ในปัจจุบัน สนามแห่งนี้ถูกใช้เป็นสนามซ้อมของทีม FC Bayern Munich (สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก) นั่นเอง 
     สนามฟุตบอลอัลลีอันทซ์อาเรนา (Allianz Arena) ถูกใช้เป็นสนามแข่งฟุตบอลโลกในปี 2006 ซึ่งนักท่องเที่ยวที่อยากเข้าชมความอลังการของสนามฟุตบอลแห่งนี้ สามารถซื้อตั๋วเข้าชมสนามในรูปแบบทัวร์ ซึ่งราคาตั๋วสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 19 EURO เท่านั้น ซึ่งคุณจะสามารถเที่ยวชมได้ทั้งในโซนของตัวสนาม (Arena View) และ ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวของทีมสโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก รางวัล ชุดแข่งตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบัน รวมไปจนถึง อุปกรณ์การกีฬาของนักแตะแต่ละคนด้วยนั่นเอง ดังนั้น หากคุณเป็นแฟนบอล ต้องไม่พลาดเข้าเยี่ยมชมสนามบอลอัลลีอันทซ์อาเรนาแห่งนี้    
     พระราชวังมิวนิกเรสซิเดนซ์ (Munich Residence) เป็นพระราชวังขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิวนิก เดิมทีพระราชวังแห่งนี้ เป็นเขตพระราชฐาน และ ที่ทรงงานของกษัตริย์แห่งแคว้นบาเยิร์นมากว่า 500 ปี นอกจากนี้ พระราชวังแห่งนี้ ยังถูกใช้เป็นรัฐสภาประจำประเทศเยอรมนีหลายยุคสมัยอีกด้วย ของราชอาณาจักรบาวาเรียและรัฐสภาบาวาเรีย แต่ในปัจจุบัน ราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์หลวงที่ใหญ่ และ อลังการที่สุดไม่เพียงแต่แค่ในเมืองมิวนิก แต่ในประเทศเยอรมนีอีกด้วย ดังนั้นถ้าถามว่า เที่ยวมิวนิก เยอรมนีที่ไหนดี เราขอบอกเลยว่า พระราชวังมิวนิกเรสซิเดนซ์ (Munich Residence) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในลิสต์อันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวทุกคนแน่นอน
     จุดเด่นของพระราชวังแห่งนี้ คือ ศิลปะการตกแต่งภายในอันวิจิตรบรรจง และ โบราณวัตถุที่ได้เก็บรักษา และ สะสมไว้ตั้งแต่สมัยอดีตกาล ซึ่งถูกจัดแสดงไว้ตามห้องโถงกว่า 130 ห้อง ซึ่งห้องที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่ ห้อง Antiquarium Hall of Antiquities ซึ่งเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ และ เก่าแก่ที่สุดในพระราชวัง ด้วยความยาวกว่า 66 เมตร มาพร้อมกับการตกแต่งสไตล์เรเนสซองส์ บาโรก และ โรโกโก และเป็นที่เก็บสะสมศิลปะโบราณเอาอันแก่ของเมือง จึงเป็นที่มาของชื่อห้อง “Antique” นั่นเอง
     อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียง และ มิวนิกที่เที่ยวที่ต้องไปพลาดไปดูความงดงามให่เห็นด้วยตาตัวเอง ได้แก่ ที่โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ มิวนิก (St. Peter’s Church Munich) ซึ่งเป็นโบสถ์อันเก่าแก่ ก่อสร้างมาคู่กับเมืองมิวนิก ตั้งแต่ ค.ศ.1180 ซึ่งแม้ว่าภายนอก และ ภายในโบสถ์จะงดงาม ชวนให้น่าหลงใหลขนาดนี้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า สถานที่แห่งนี้ได้ผ่านประวัติอันโชกโชน ทั้งเหตุการณ์การถล่มจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และ เหตุการณ์ไฟไหม้ อย่างไรก็ตาม เซนต์ปีเตอร์ มิวนิก (St. Peter’s Church Munich) แห่งนี้ ได้รับการบูรณะอีกครั้งในปี ค.ศ 1368 และมีการต่อเติม และ รังสรรค์โบสถ์ให้มีความสวยงามมากขึ้น โดยการสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อคเเละโรโคโค
     ไฮไลท์ของโบสถ์ที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว คือการตกแต่งโบสถ์ภายใน โดยภายในจะมีแท่นบูชาสถาปัตยกรรมในเเบบบาร็อค ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงกระดูกของเซนต์มันดิเทีย ซึ่งคุณเป็นนักบุญที่สละชีพเพื่อชาวคริสต์ โดยมีการตกแต่งโครงกระดูกด้วยอัญมณีอย่างสวยงาม นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปบนหอคอยโบสถ์ โดยการขึ้นบันไดกว่า 300 ขั้น ซึ่งด้านบน จะเป็นจุดชมวิวเมืองมิวนิกที่สวยงาม และ เป็นจุดที่คุณจะได้มองเห็นระฆังทั้ง 8 ใบ ของโบสถ์ที่ส่งเสียงเฉพาะในพิธีกรรมทางศาสนานั่นเอง 
     เปลี่ยนบรรยากาศจากการท่องเที่ยวมิวนิกทางสถาปัตยกรรม ธรรมชาติ และ ประวัติศาสตร์ มาเป็นการท่องเที่ยวเชิงพิพิธภัณฑ์ กับสถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู (BMW Museum) ซึ่งในบริเวณนี้ คุณจะพบเห็นตึกสูงใหญ่ รูปทรงประหลาด สะดุดตา ด้วยกันทั้งหมด 2 ตึกด้วยกัน ได้แก่ ตึก  พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู (BMW Museum) ซึ่งเป็นตึกรูปทรงกลม และ ตึกอาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์ (BMW Welt) ซึ่งมาพร้อมกับรูปทรงนาฬิกาทรายแบบตั้งตรง โดยทั้งสองตึกนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบยานยนต์ และ นักท่องเที่ยวที่อยากรู้เรื่องราว และ พัฒนาการของนวัตกรรมยานยนต์ยี่ห้อ BMW ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนีนั่นเอง
     ภายในพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู (BMW Museum) จะเป็นที่จัดแสดงของข้อมูล ความเป็นมา และ ยานยนต์แต่ละรุ่นของ BMW ตั้งแต่รุ่นแรก จนถึงรุ่นปัจจุบัน ซึ่งรับรองได้ว่าคุณสามารถเดินชมได้ทั้งวันแบบไม่เบื่อ เพราะภายใน ถูกแบ่งโซนการจัดแสดงออกเป็น 7 ส่วนด้วยกัน ตั้งแต่ House of Design, House of the Company,  House of the Motorcycle, House of Technology, House of Motor Sport, House of Brand, และ House of the Series 
     สถานที่ท่องเที่ยวที่สุดท้าย ที่ทาง Artralux อยากจะแนะนำให้นักท่องเที่ยวผู้มีโอกาสมาเที่ยว ณ เมืองมิวนิก ต้องไม่พลาด มาเที่ยวเยือนให้ได้นั้น คือ ร้านอาหารฮอฟบราวเฮาส์ (Hofbräuhaus München) ซึ่งเป็นโรงเบียร์ที่เก่าแก่ และ ใหญ่ที่สุดในเมืองมิวนิก ก่อสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16  ซึ่งการเดินทางมาที่นี้ก็ไม่ยากเลย เพราะโรงเบียร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านจัตุรัส Marienplatz ซึ่งความน่าตื่นตาตื่นใจของที่นี้ คือ สถาปัตยกรรม และ ศิลปะการตกแต่งภายใน นอกจากอาหารแสนอร่อยแล้ว พนักงานเสิร์ฟยังสวมชุดเยอรมนีโบราณ อีกทั้งยังมีการเล่นดนตรีสดตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่านอกจากอิ่มท้องแล้ว คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของร้านแบบอาหารเยอรมนีในสมัยก่อนได้ดีมากๆ  
     ร้านนี้มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน ซึ่งแต่ละชั้น ประกอบไปด้วยการตกแต่งที่สวยงาม มีทั้งภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง โคมไฟระยิบระยา และ กรอบรูปโบราณมากมาย จุดเด่นของร้าน คือ การใช้โต๊ะอาหาร และ เก้าอี้แบบยาว ทำให้ได้บรรยากาศคล้ายๆ กับงานสังสรรค์อย่างไรอย่างนั้น  
 


ผู้ตั้งกระทู้ Kingdom :: วันที่ลงประกาศ 2023-12-03 11:45:10 IP : 104.28.252.177


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.