ReadyPlanet.com


  รวมทริค! ซักผ้ายังไงให้หอม ติดทน


 1. ไม่ควรซักผ้าในปริมาณที่มากไป
หลาย ๆ คนอาจจะมีอาการขี้เกียจ กอง ๆ ผ้าไว้เยอะ ๆ แล้วค่อยมาซักพร้อมกันทีเดียว นี่เป็นเรื่องที่ผิดอย่างมาก! เพราะวิธีการซักผ้าให้หอมนั้น ต้องซักในปริมาณผ้าที่พอดี ไม่มากเกินไป เพราะหากเราซักในปริมาณที่มาก การกระจายตัวของน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มจะทำงานได้ไม่ทั่วถึง คราบสกปรกและกลิ่นเหม็นในบางจุดอาจจะไม่ถูกขจัดอยากเต็มที่ ปริมาณที่เหมาะสมต่อการซักใน 1 ครั้ง คือ ไม่เกินครึ่งถังซัก

2. แยกผ้าก่อนซัก
วิธีนี้เป็นวิธีที่หลาย ๆ คนทำกันอยู่แล้วนั่นคือ การแยกผ้าก่อนซัก ไม่ว่าจะแยกระหว่างกางเกง เสื้อ ชุดชั้นใน ผ้าสี ผ้าขาว วิธีนี้นอกจากสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังจะช่วยทำให้ผ้าหอมขึ้นได้ด้วย เพราะเสื้อผ้าในแต่ละส่วนมีจุดที่สกปรกต่างกัน หากนำมาซักปนกันจะทำให้คราบสกปรกและกลิ่นจากเสื้อผ้าส่วนที่สกปรกกว่ามาปนเปื้อนอีกส่วน และส่งต่อกลิ่นไม่พึงประสงค์มาได้

3. ใช้น้ำร้อนในการแช่-ซัก
น้ำร้อนจะช่วยทำให้เสื้อผ้าไม่เกิดคราบผงซักฟอก เพราะน้ำร้อนจะช่วยละลายผงซักฟอกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังกำจัดไรฝุ่น ขนแมว และแบคทีเรีย ที่ติดอยู่ตามเสื้อเราด้วย และหากเสื้อมีคราบเปื้อน น้ำร้อนก็เป็นอีกตัวช่วยที่จะทำให้คราบหลุดออกได้อย่างง่ายดายแบบไม่ต้องขยี้ และด้วยความที่ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกได้ดี ก็จะทำให้ผ้ามีกลิ่นหอม สะอาด ไร้กลิ่นอับชื้นได้เช่นกัน โดยวิธีที่แนะนำคือ นำผ้ามาแช่กับน้ำร้อนก่อนซักเป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นนำไปซักแบบปกติ หรือจะซักด้วยน้ำร้อนก็ได้เช่นกัน แต่ระวังด้วยนะ หากนำไปซักเสื้อที่บางอาจจะทำให้เสื้อหดเล็กลงได้

4. ใช้ผงซักฟอก-น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น
ผลิตภัณฑ์ผงซักฟอกและปรับผ้านุ่มจะมีสูตรพิเศษที่แตกต่างกันออกไป สำหรับผงซักฟอกขอแนะนำสูตรเข้มข้นที่ลดกลิ่นอับและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จะทำให้ผ้าเราหอมสะอาด ไม่มีกลิ่นอับชื้นมากวนใจ และใช้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มในกลิ่นที่เราชอบ จะยิ่งช่วยให้ผ้าหอม ยิ่งใส่ยิ่งแฮป***!

5. เมื่อซักเสร็จให้รีบตาก
อีกหนึ่งวิธีที่ควรทำเพื่อรักษาให้ผ้าหอมยาวนานนั่นคือ หลังจากเราซักผ้าหรือปั่นแห้งเสร็จแล้ว ควรรีบนำเสื้อผ้าออกมาตากให้ไวที่สุด เพราะหากหมักหมมในเครื่องซักผ้านานเกินไปจะเสี่ยงทำให้ผ้าเกิดกลิ่นเหม็นอับชื้นได้ หากผ้าเหม็นอับอาจทำให้ต้องเสียเวลาซักใหม่อีกรอบได้

6. ไม่ตากผ้ากลางแดด
การตากผ้าก็เป็นเรื่องที่สำคัญ หลายบ้านมีความเชื่อผิด ๆ ว่าต้องตากผ้ากลางแดดจัดจะทำให้ผ้าหอมและกำจัดแบคทีเรียได้ดี แนะนำว่าอย่าทำเด็ดขาด! เพราะนอกจากจะทำลายเนื้อผ้า สีของผ้าก็จะหมองลง อีกทั้งยังติดกลิ่นแดดมาด้วยอีกต่างหาก แม้ว่าจะแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มหอมแค่ไหน กลิ่นก็จะไม่ติดทน วิธีที่ดีที่จะช่วยรักษาเสื้อผ้าและทำให้กลิ่นหอมติดทนคือการตากในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทดี มีลมพัดผ่าน เว้นระยะห่างการตากเสื้อให้พอดี ไม่นำไปตากในจุดอับ เพราะจะทำให้เสื้อไม่แห้งแถมมีกลิ่นอับติดมา เท่านี้ก็ได้เสื้อผ้าหอมฉุยเหมือนร้านซักรีดมาเองแล้ว!

7. ฉีดผ้าด้วยสเปรย์ผ้าหอม
เมื่อผ้าแห้งแล้ว ก่อนเข้าตู้ก็อาจจะฉีดสเปรย์ผ้าหอมลงบนเสื้อก่อนเก็บ หรือขณะรีดผ้า เพื่อคงความหอมไว้ ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อหลากหลายกลิ่นให้เลือกซื้อ ซึ่งนอกจากจะนำมาฉีดผ้าให้หอมแล้ว ยังสามารถฉีดลดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าได้อีกด้วย

8. หมั่นทำความสะอาดถังซัก
หนึ่งสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง แต่หลายคนอาจละเลยคือการทำความสะอาดถังซักผ้า เพราะการที่เรานำเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ที่สะสมไปด้วยสิ่งสกปรก ลงไปซักในเครื่องซักผ้า ถังซักผ้าก็จะเป็นเครื่องกักเก็บความสกปรกเหล่านั้นต่ออีกที และจะถูกส่งต่อในเสื้อผ้าในการซักครั้งถัดไป ดังนั้นเราจะต้องทำความสะอาดถังซักอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยทุก ๆ 3 เดือน วิธีการทำสะอาดก็มีหลากหลายวิธี เช่น ใช้น้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา หรือผงทำความสะอาด เทลงไปผสมกับน้ำในถังซัก จากนั้นก็ซักและถ่ายน้ำทิ้งตามปกติ เท่านี้เครื่องซักผ้าของเราก็จะสะอาด การซักในครั้งต่อ ๆ ไปก็จะทำให้ผ้าหอมมากยิ่งขึ้น



ผู้ตั้งกระทู้ POPCORN :: วันที่ลงประกาศ 2023-10-30 04:34:50 IP : 116.212.148.58


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.