|
วอลเล่ย์บอล ประวัติกีฬาวอลเล่ย์บอล วิธีการเล่น UFAGOOD | |
วอลเล่ย์บอล ประวัติกีฬาวอลเล่ย์บอล วิธีการเล่น UFAGOOD วอลเลย์บอล เป็นอีกหนึ่งชนิด กีฬายอดนิยม ที่มีการแข่งขันระดับชาติ หรือ นานาชาติ และนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายทั้งประเทศไทย เอเซีย หรือ ยุโรป ในปัจุบันกีฬาวอลเลย์บอลถือว่ามีอิทธิพลมากในวงการกีฬาบ้านเรา คนไทยให้ความสนใจเเละนิยมกีฬาชนิดนี้กันเยอะ ด้วยรูปแบบการเล่นที่เล่นเป็นทีม เน้นไปที่ความสามัคคีเป็นหลัก ในช่วงที่ผ่านมา มีแมตช์การเเข่งขันทัวร์นาเมนต์เกิดขึ้นมากมาย ในประเทศไทยที่ วอลเลย์บอลทีมชาติ โดยเฉพาะประเภทหญิง ถือว่าเป็นกระแสที่โด่งดังกันเลยทีเดียว ประวัติวอลเลย์บอล
โดย นายวิลเลียม จี. มอร์แกน ได้เกิดไอเดียในการพัฒนา กีฬาวอลเลย์บอล ขึ้น ขณะที่เขากำลังนั่งดูเทนนิส และเลือกนำเอาตาข่ายกลางสนามของกีฬาเทนนิส มาเป็นส่วนประกอบในกีฬาที่เขาคิดค้น และเลือกใช้ยางในของลูกบาสเก็ตบอล มาเป็นลูกบอลที่ใช้ตีโต้ตอบกันไปมา แต่ยางในของลูกบาสเก็ตบอลกลับให้น้ำหนักเบาจนเกินไป จึงเปลี่ยนไปใช้ลูกบาสเก็ตบอลแทน ซึ่งลูกบาสเก็ตบอลก็มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากจนเกินไปอีก เขาจึงสั่งทำลูกบอลขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ ในขนาดเส้นรอบวง 25-27 นิ้ว และกำหนดน้ำหนักไว้ที่ 8-12 ออนซ์ จากนั้นจึงตั้งชื่อกีฬาชนิดนี้ว่า มินโทเนตต์ ต่อมา ชื่อของ มินโทเนตต์ ถูกเปลี่ยนเป็น วอลเลย์บอล หลังได้รับคำแนะนำจาก ศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด ในงานประชุมสัมมนาผู้นำทางพลศึกษาที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์ เมื่อปี ค.ศ.1896 (พ.ศ.2439) และกลายเป็นกีฬายอดนิยมในหมู่ประชาชนชาวอเมริกัน จนแพร่หลายออกไปทั่วโลก รวมทั้งมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เป็นระยะ กติกาวอลเลย์บอล
– เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 9 เมตร ยาว 18 เมตร ความสูงจากพื้นประมาณ 7 เมตร มีบริเวณโดยรอบห่างจากสนามประมาณ 3 เมตร – แต่หากเป็นสนามมาตรฐานในระดับนานาชาติ กำหนดให้รอบสนาม ห่างจากสนามประมาณ 5 เมตร ด้านหลังห่าง 8 เมตร และมีความสูง 12.5 เมตร – เส้นรอบสนาม (Boundary lines) ทุกเส้นจะต้องกว้าง 5 เซนติเมตร เป็นสีอ่อนตัดกับพื้นสนาม มองเห็นได้ชัดเจน – เส้นแบ่งเขตแดน (Center line) ที่อยู่ตรงกลางสนาม จะต้องอยู่ใต้ตาข่าย หรือตรงกับเสาตาข่ายพอดี ตาข่าย – ตารางในตาข่ายกว้าง 10 เซนติเมตร ผู้ติดไว้กับเสากลางสนาม – ตาข่ายสำหรับทีมหญิงสูง 2.24 เมตร ลูกวอลเลย์บอล – ทำจากหนังสังเคราะห์ที่ยืดหยุ่นได้ – ซึ่งในการแข่งขันระดับโลกจะใช้ลูกบอล 3 ลูกต่อการแข่งขัน เพื่อความต่อเนื่องหากบอลออกนอกสนาม ผู้เล่น – ผู้เล่นจะลงเล่นในสนามได้ครั้งละ 6 คน โดยแบ่งออกเป็นหน้าตาข่าย 3 คน และด้านหลังอีก 3 คน – สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นครั้งละกี่คนก็ได้ โดยผู้เล่นเดิมที่ถูกเปลี่ยนออก สามารถเปลี่ยนกลับมาเล่นในสนามได้อีก – การแต่งกายในชุดแข่งขัน ต้องแต่งกายเหมือนกันทั้งทีม ประกอบไปด้วย เสื้อสวมคอ กางเกงขาสั้น ถุงเท้า และรองเท้าผ้าใบพื้นยางที่ไม่มีส้น โดยผู้เล่นแต่ละคนจะต้องติดหมายเลขกำกับไว้ที่เสื้อ กำหนดให้ใช้เลข 1-18 เท่านั้น สำหรับหัวหน้าทีมจะต้องมีแถบผ้าขนาด 8×2 เซนติเมตร ติดอยู่ใต้หมายเลขบริเวณอกเสื้อด้วย วิธีการเล่น – การเสิร์ฟจะต้องรอฟังสัญญาณนกหวีดก่อน และให้เริ่มเสิร์ฟลูกบอลภายใน 5 วินาที – ทีมที่ได้คะแนนจะเป็นผู้ได้เสิร์ฟ จนกว่าจะเสียคะแนนให้ฝ่ายตรงข้ามจึงจะเปลี่ยนเสิร์ฟ – เมื่อลูกเข้ามาในเขตแดนของทีม จะสามารถเล่นบอลได้มากที่สุด 3 ครั้งเท่านั้น – สามารถบล็อคลูกบอลจากฝ่ายตรงข้ามที่หน้าตาข่ายได้ แต่หากผู้เล่นล้ำเข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้ามจะถือว่าฟาวล์ – สามารถขอเวลานอกได้ 2 ครั้งต่อ 1 เซต ให้เวลาครั้งละ 30 วินาที – ทุกครั้งที่แข่งขันจบ 1 เซต จะต้องมีการเปลี่ยนฝั่ง การคิดคะแนน – หากทีมไหนได้คะแนนครบ 25 คะแนนก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะในเซตนั้นไป แต่หากคะแนนเสมอกันที่ 24-24 จะต้องมีการดิวซ์ (Deuce) หมายถึงต้องทำคะแนนให้มากกว่าอีกฝ่าย 2 คะแนน ถึงจะเป็นผู้ชนะ เช่น 26-24 หรือ 27-25 เป็นต้น – ต้องแข่งขันกันให้ชนะ 3 ใน 5 เซต จึงจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น
วอลเล่ย์บอล ประวัติกีฬาวอลเล่ย์บอล วิธีการเล่น UFAGOOD
| |
ผู้ตั้งกระทู้ สยาม :: วันที่ลงประกาศ 2020-12-18 15:42:45 IP : 27.145.89.107 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 252580 |